ในตอนนี้ ผู้บริโภคกำลังใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ของตนเพื่อส่งและรับการชำระเงินมากกว่าที่เคยเป็นมา โดยคาดว่ามูลค่าของธุรกรรมทั่วโลกในปี 2560 จะสูงกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 23 ล้านล้านบาท) ต่อปี เนื่องจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก วีซ่าจึงช่วยกำหนดคำนิยามประสบการณ์ของผู้บริโภคด้วยเทคโนโลยีการชำระเงินแบบดิจิทัลที่ใหม่และปลอดภัย
การชำระเงินผ่านมือถือได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น

Samsung Pay มีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
คลื่นลูกใหม่ของการชำระเงินออนไลน์ที่รองรับด้วยระบบการรักษาความปลอดภัยของวีซ่า

เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัย
เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตที่รวดเร็วและต่อเนื่องของการทำธุรกรรมบนมือถือ วีซ่าได้นำเทคโนโลยีที่ลดการฉ้อโกงในการชำระเงินทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกมาใช้ เพื่อช่วยปกป้องคู่ค้าของวีซ่า จากภัยคุกคามด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

การปกป้องธุรกรรม
บริการโทเค็นของวีซ่า (Visa Token Service) ช่วยปกป้องการทำธุรกรรมผ่าน Samsung Pay ทุกรูปแบบ โดยการแทนที่ข้อมูลการชำระเงินที่ละเอียดอ่อนด้วยการใช้ตัวระบุแบบดิจิทัลเฉพาะหรือ "โทเค็น" โทเค็นที่เข้ารหัสไว้นี้ จะเก็บรายละเอียดบัตรจริงไว้เป็นข้อมูลส่วนตัว และจะไม่แสดงค่าใดๆ หากเกิดอันตรายขึ้น