มีเพียง 50% ขององค์กรชั้นนำระดับโลกเท่านั้นที่สามารถมองเห็นภาพรวมเป็นเวลา 30 วันในเรื่องข้อผูกพันทางการเงินขององค์กรได้ ในขณะที่ 81% ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจนั้น ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าในอีก 60 วันได้* การขาดแคลนระบบอัตโนมัติหรือไม่มีการปรับปรุงระบบอิเล็กทรอนิกส์และแนวทางการแก้ปัญหาด้านดิจิทัลในปัจจุบันอาจจะส่งผลให้องค์กรมีประสิทธิภาพลดลงในด้านการตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและการนำเงินกลับมาลงทุนใหม่ (* ดัชนี Visa Cash Flow Visibility Index ปี 2558 ทำการวิจัยในระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายนร่วมกับซีเอฟโอ/สมุห์บัญชี 811 รายขององค์กรชั้นนำในสิบประเทศเพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับความท้าทายที่องค์กรอาจจะเผชิญในการบริหารกระแสเงินสดได้ดีขึ้นและรับประกันในเรื่องภาพรวมและการคาดการณ์ได้ การวิจัยดำเนินการโดย East & Partners ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญอิสระชั้นนำในด้านการวิเคราะห์และวิจัยตลาดธนาคารเพื่อธุรกิจ ข้อมูลประจำภูมิภาคครอบคลุมการวิจัยในออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์)
หนี่งในเรื่องที่ประชดประชันมากที่สุดในโลกขององค์กรก็คือ บริษัทมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ในการจ่ายชำระเงินหรือการเรียกเก็บเงินตามใบแจ้งหนี้ ในขณะที่แต่ละบริษัททำทุกอย่างเพื่อปรับลดต้นทุนลง เพิ่มการออม และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้วิธีชำระเงินที่ล้าสมัยซึ่งทำให้มีกำไรลดลง
วีซ่าทำงานร่วมกับสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งบริการที่เป็นนวัตกรรมสำหรับลูกค้าและสร้างมูลค่าเพิ่ม ช่วยให้มีศักยภาพในการทำกำไรสูงสุดในการนำเอาแนวทางการแก้ปัญหาของวีซ่าไปใช้และเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและทางการเงิน